เทคนิคการเลี้ยงไก่งวงของคุณกิมฮก แซ่เตีย

คุณกิมฮก แซ่เตีย เกษตรกรจังหวัดอุบลราชธานี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงไก่งวง
คุณกิมฮก แซ่เตีย เกษตรกรที่บ้านดอนรังกา ตำบลตาลสุม อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบอาชีพทำไร่นาสวนผสม ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์แบบผสมผสาน ในพื้นที่ 31 ไร่ เป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้าที่เลี้ยงไก่งวงเป็นชีพมาเกือบ 10 ปี ปัจจุบันมีพ่อ-แม่พันธุ์ไก่งวงที่เลี้ยงไว้กว่า 50 ตัว การเลี้ยงคุณกิมฮกจะเลี้ยงไว้ริมบ่อปลา ภายในสวนที่ล้อมรั้วไว้อย่างดี

ไก่งวงที่นี่จะเลี้ยงแบบปล่อย ให้หากินในสวน
+++++++++++++++++++++

การเลี้ยงไก่งวงแบบปล่อยในสวน คุณกิมฮกจะใช้พ่อพันธุ์คุมฝูง 2-3 ตัว
ซึ่งพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ที่สมบูรณ์และพร้อมผสมพันธุ์จะต้องมีอายุ 1 ปีขึ้นไป มีอายุใช้งาน 3 ปี หลังจากนั้นจะต้องเปลี่ยนพ่อและแม่พันธุ์ใหม่
คุณกิมฮกเล่าว่า ตอนที่เลี้ยงช่วงแรก จะเลี้ยงแบบปล่อย จะประสบปัญหาลูกไก่ที่ฟักออกจากไข่ ไม่แข็งแรง ลูกไก่งวงตายเกือบหมด ส่วนในระยะเลี้ยงขุนไก่งวงจะประสบปัญหาโรคฝีดาษระบาด ทำให้ไก่งวงตายจำนวนในช่วงหน้าฝน คุณกิมฮกจึงได้สังเกตพฤติกรรมและศึกษาจากหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่งวง จนพบวิธีอนุบาลลูกไก่งวงให้มีอัตรารอดตายเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
แม่ไก่งวงกำลังกกไข่ ซึ่งจะใช้เวลากกไข่ประมาณ 30 วัน
วิธีการ คือ เมื่อแม่ไก่ออกไข่แล้วให้ย้ายทั้งแม่ไก่ และไข่ไว้ในที่ร่ม ใช้กล่องกระดาษ หรือตะกร้าเป็นรังให้แม่ไก่กกไข่ ห้ามให้ไข่โดนฝนหรือความชื้นเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไข่ไม่ฟักเป็นตัว แม่ไก่งวงใช้เวลากกไข่ 30 วัน
คอกอนุบาลไก่งวง
หลังจากลูกไก่งวงฟักออกมาเป็นตัวแล้ว ให้แยกลูกไก่งวงมาอนุบาลในกรง ซึ่งช่วงแรกเวลากลางคืนจะกกให้ความอบอุ่นโดยใช้แสงสว่าง และใช้ผ้าคลุมกรงให้มิดชิด และตั้งไว้ในร่ม ไม่ให้โดนฝน อาหารที่ให้จะเป็นอาหารไก่เล็ก ให้กินตลอดเวลา ไม่ให้ขาด เพราะถ้าลูกไก่ได้รับอาหารไม่เพียงพอจะทำให้ลูกไก่ชะงักการเจริญเติบโตได้ จนกระทั้งลูกไก่งวงอายุประมาณ 30 วัน จึงย้ายมาเลี้ยงในกรงเลี้ยงไก่งวงรุ่นที่สร้างไว้ริมบ่อเลี้ยงปลา สำหรับอาหารที่ให้ในช่วงนี้จะให้หัวอาหารสำหรับไก่เนื้อเพียงอย่างเดียว เมื่อไก่งวงมีอายุ 2 เดือนขึ้นไป จะผสมรำข้าวลงไปเพื่อลดต้นทุนค่าอาหาร

อาหารและน้ำให้กินไม่ให้ขาด เพื่อให้ลูกไก่เจริญเติบโตเต็มที่
เลี้ยงจนกระทั่งมีอายุ 4 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ไก่มีสุขภาพแข็งแรงแล้ว จะปล่อยเลี้ยงให้หากินเศษหญ้าและวัชพืชภายในสวนและให้อาหารเสริมประเภท รำ และปลายข้าว ใบกระถิน หรือพืชผักตามฤดูกาลที่ปลูกไว้ เป็นการประหยัดค่าอาหาร

ปล่อยไก่งวงออกจากกรง เพื่อไม่ให้ไก่งวงเครียด
เนื่องจากสัญชาติญาณของไก่งวง จะเคยชินกับสภาพที่โล่งๆ ถ้าโดนกักขังจะทำให้ไก่งวงเครียดได้ โดยผู้เลี้ยงต้องล้อมรั้วให้มิดชิด และต้องคอยระวังอันตรายจากสุนัข แมว เหยี่ยว ฯลฯ
ไก่งวงจะใช้เวลาเลี้ยงขุนนานถึง 6 เดือน (นับตั้งแต่ฟักออกจากไข่) ก็สามารถจับขายได้ โดยไก่งวงจะมีน้ำหนักตัวประมาณ 7 กิโลกรัม/ตัว ส่งขายในราคากิโลกรัมละ 100 บาท

ไก่งวงอายุ 6 เดือน- 1 ปี
เมื่อไก่งวงโตเต็มที่ อายุเฉลี่ยประมาณ 10 เดือน ไก่งวงจะให้ไข่เต็มที่ คือประมาณ 15-20 ฟอง/ตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าไก่งวงสมบูรณ์มากน้อยแค่ไหน ช่วงนี้ผู้เลี้ยงต้องเตรียมรังให้เพียงพอกับแม่พันธุ์ และต้องคอยดูแลเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา
การสังเกตว่าไก่งวงจะออกไข่หรือไม่ให้สังเกตง่ายๆ คือ ไก่งวงมักจะชอบไปอยู่มุมมืดๆ หรือไม่ก็เดินวนเวียนไปๆมาๆ ถ้าสังเกตุเห็นว่าไก่งวงที่เลี้ยงมีพฤติกรรมแบบนี้ ให้จับไก่แม่พันธุ์ตัวนั้นเข้าไปในรังสำหรับวางไข่ หลังจากไก่งวงวางไข่แล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์ แม่ไก่งวงก็จะเริ่มกกไข่และฟักออกมาเป็นตัว
โรคของไก่งวง
โรคที่พบส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโรค ฝีดาษ โรคไทฟอยด์ในสัตว์ปีก โรคขี้ขาว แต่ด้วยความทนต่อสภาพแวดล้อมจึงมีน้อยมากที่ไก่งวงจะเป็นโรค วิธีการป้องกันง่ายๆ เพียงคอยหมั่นดูแลรักษาความสะอาดภายในและภายนอกคอกอย่างสม่ำเสมอ และรักษาโดยใช้ยาแก้ปวด ละลายน้ำทาที่แผล
โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนจะเกิดโรคฝีดาษระบาด ทำให้ไก่งวงตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งคุณกิมฮกพบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ไก่งวงเป็นโรคฝีดาษ คือ ยุง ซึ่งเป็นพาหะนำโรค คุณกิมฮกจึงแนะนำว่าให้ผู้เลี้ยงคอยดูแลไก่พยายามอย่าให้โดนยุงกัด โดยหลังจากที่อนุบาลลูกไก่งวงจนอายุครบ 1 เดือนแล้ว เกษตรกร ยังคงเลี้ยงในกรงต่อไป โดยในช่วงเวลาหัวค่ำ จนถึงรุ่งเช้าวันถัดไป เกษตรกรจะกางมุ้ง หรือใช้ผ้าคลุมกรงไก่งวงทุกกรง เพื่อป้องกันยุง โดยเฉพาะช่วงที่ไก่งวงอายุ 1-4 เดือน ถ้าหากเป็นโรคฝีดาษจะหายอยาก
ถ้าพบเห็นไก่ที่เลี้ยงเป็นโรคฝีดาษให้รักษาได้โดยใช้
1. ยาแก้ปวด (ทัมใจ)
2. ทิงเจอร์ไอโอดีน
วิธีการใช้ ให้นำยาแก้ปวดผสมกับทิงเจอร์ไอโอดีน จากนั้นนำคัทตันบัดส์หรือสำลี ชุบยาทาบริเวณแผลประมาณ 2-3 ครั้ง แผลจะตกสะเก็ดและหายภายใน 2-3 วัน
การตลาด
เนื้อไก่งวงเป็นอาหารที่ผู้บริโภคนิยมมากโดยเฉพาะช่วงเทศกาล เนื่องจากเนื้อของไก่งวงจะนุ่ม มีสีแดงน่ารับประทาน ราคาขายก็ถือว่าแพง ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารตามภัทรตราคาร ซึ่งสามารถจำหน่ายได้ในราคาตัวละ 400-500 บาท
ท่านใดสนใจอาชีพการเลี้ยงไก่งวง สอบถามข้อมุลเพิ่มเติมได้ที่คุณกิมฮก แซ่เตีย ที่โทร.089-5806165 (ในวันเวลาที่เหมาะสม)
แหล่งที่มาของข้อมูล :
คุณกิมฮก แซ่เตีย
ที่อยู่ : หมู่ที่2 ตำบลตาลสุม อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น